พูดถึง Buffet แล้วแน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ร้อยทั้งร้อยน่าจะผ่านสมรภูมิการกินบุฟเฟ่ต์มาแล้วอย่างโชกโชน แต่ถ้าพูดถึง A La Carte อาจจะยังมีบางคนสงสัยว่า ‘มันคืออะไรคาราเต้ๆ อ่ะแก’ ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จัก พร้อมเปรียบเทียบกันแบบช็อตต่อช็อตไปเลยว่าร้านอาหารแบบไหนคือร้านที่เหมาะกับสไตล์ของคุณมากกว่ากัน
à la carte เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า อลาคาร์ท หรือ อาลาคาร์ท ใช้เรียกอาหารประเภทที่สั่งแบบจานต่อจาน ซึ่งพอนำมาใช้เรียกเมนูอาหารก็จะฟังดูหรูหราขึ้นมาอีกระดับ แต่ถ้าให้เรียกแบบภาษาบ้านๆ เข้าใจง่าย มันก็คืออาหารจานเดียวที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นแหละ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสเต็กโทมาฮอว์คหรือคอหมูย่างธรรมดา จะซีซาร์สลัดหรือส้มตำปูปลาร้าก็ถือว่าเป็นอลาคาร์ททั้งสิ้น
ส่วน Buffet นั้นเราคงไม่ต้องอธิบายกันให้ยืดยาวเพราะมันจะเจ็บคอ มองผ่านๆ แบบไม่ต้องคิด แน่นอนบุฟเฟ่ต์ยังไงก็ดูคุ้มกว่า เพราะว่าเราจะกินได้เยอะเท่าที่ต้องการ คิดอะไรไม่ออกก็บุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ วนไป แต่เราเคยหยุดคิดบ้างหรือไม่ว่ามันคุ้มค่า และเหมาะกับเราจริงๆ นะหรือ?
* ความหลากหลาย •
Buffet – สายกินที่ฟินกับบุฟเฟ่ต์ นอกจากจะเน้นปริมาณ อยากกินแบบเยอะๆ โดยไม่ต้องคิดมากเรื่องราคาแล้วยังชอบที่มีเมนูให้เลือกกินหลากหลายอีกด้วย เราสามารถลิ้มลองเมนูต่างๆ ได้หลากหลายกว่า เพราะร้านมักเสิร์ฟมาเป็นพอร์ชั่นเล็กๆ ได้ลองสั่งนู่นมากินนิด ตักนี่มากินหน่อยซึ่งถือเป็นข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้ของบุฟเฟ่ต์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ทุกร้านอีกเหมือนกันที่จะมีเมนูหลากหลาย บางร้านก็อาจจะเน้นเมนูเด่นๆ แค่ 2-3 อย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านบุฟเฟ่ต์ที่เลือกเราเลือกไปนั่นเอง
A la Carte – อย่างไรก็ตาม การกินร้านอลาคาร์ทนั้นก็ใช่ว่าตัวเลือกของอาหารจะน้อยลงเสมอไป หลายๆ ร้านก็มีให้เลือกแบบครบครัน ทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ ซีฟู้ด ต้ม ผัด แกง ทอด ไทย จีน ฝรั่ง ฟิวชั่นไปในร้านเดียวกัน จริงอยู่ว่าการไปกินข้าวแค่เพียงเรากับใครอีกสักคน อาจทำให้ไม่ได้ลองหลายๆ เมนู แต่ถ้าไปกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ก็สามารถสั่งได้หลากหลายเมนูเพื่อมาแชร์กันได้เหมือนกัน เค้าถึงบอกว่ายิ่งกินข้าวพร้อมกันเยอะๆ ก็ยิ่งอร่อยไงล่ะ
* ราคา *
Buffet – ข้อดีของบุฟเฟ่ต์คือ สามารถเลือกร้านได้เลยตามงบประมาณ ก่อนเดินเข้าร้านก็รู้เลยว่าในมื้อนั้นจะต้องจ่ายคนละเท่าไหร่ ใครใคร่กินอะไรก็จัดไปแบบไม่ต้องมีชิ้นเกรงใจ ตัดปัญหาจุกจิกหัวใจเวลาต้องไปกินข้าวกับเพื่อนที่เอาแต่สั่งของแพงหรือสั่งแต่ของที่ตัวเองอยากจะกินโดยไม่สนคนอื่นว่าเค้าอยากจะกินด้วยหรือไม่ หรือต้องหารเท่าในเมนูที่เราไม่ได้กินหรือกินไม่ได้รึเปล่า ตอนบิลมาจะจ่ายแบบหารเท่าหรือแยกจ่ายของใครของมันดี เพราะจบมื้อไม่ว่าทุกคนจะกินอะไร มากน้อยแค่ไหนใครจะสั่งแพงสั่งถูกก็จ่ายเท่ากันแบบแฟร์ๆ
A la carte – ส่วนร้านอลาคาร์ทนั้นราคาก็จะแปรผันไปตามคุณภาพ แน่นอนว่ายิ่งคุณภาพสูงราคาก็ยิ่งแพง มีหลายครั้งที่รู้สึกว่าเมนูน่าสนใจแต่ราคาแรงเกินไป หรือบางอย่างกินไปแล้วยังไม่หายอยาก จะสั่งเพิ่มก็กลัวๆ กล้าๆ จบมื้อมาแบบไม่ค่อยฟินเพราะกินไปก็ต้องคอยคำนวนงบไปด้วย ไหนจะมีเรื่อง Service charge และ Vat ที่บางร้านยังไม่รวมเข้ามาในราคาอาหารอีก ดังนั้นถ้าเป็นมื้อที่ต้องคุมงบอย่างตอนพาลูกค้าหรือลูกน้องในทีมไปเลี้ยงด้วยแล้ว ร้านอลาคาร์ทอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก