สวัสดีครับวันนี้มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องของพระราชวังบางประอินมาฝากทุกๆท่านกันครับพระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตรเป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวังและยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ
ประวัติของพระราชวังบางประอิน
เล่ากันว่า ครั้งสมเด็จพระเอกาทศรถ ยังทรงดำรงพระยศพระมหาอุปราช ขณะที่พระองค์เสด็จประพาสทางชลมารค เรือพระที่นั่งถูกพายุใหญ่พัดจนล่มลง สมเด็จพระเอกาทศรถทรงว่ายน้ำขึ้นไปบน เกาะบ้านเลน และขณะที่ประทับอยู่กับชาวบ้าน พระองค์ได้หญิงชาวเกาะนามว่า อิน เป็นบาทบริจาริกา ซึ่งต่อมาคนทั่วไปจึงเรียกเกาะนี้ว่า เกาะบางปะอิน
เมื่อพระเอกาทศรถเสด็จกลับ พระองค์ทรงพานางอินกลับไปกรุงศรีอยุธยาด้วย ต่อมานางอินได้เป็นพระสนม และมีพระราชโอรส ซึ่งเล่าสืบกันว่า พระราชโอรสพระองค์นั้น คือ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง นั่นเองหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นตรงบริเวณนิวาสสถานเดิมของพระมารดา และได้พระราชทานนามว่า วัดชุมพลนิกายาราม และได้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่ง เพื่อฉลองการที่พระราชเทวีประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระนารายณ์ราชกุมาร พระราชทานนามว่า พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์
หลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอิน ถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง แต่กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งโดย สุนทรภู่ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี และได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่า บางปะอินเป็นเกาะกลางน้ำ มีความเงียบสงบ มีเส้นทางการเดินเรือหลายทาง อีกทั้งเป็นสถานที่เสด็จประพาสของพระบรมชนกนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ได้บูรณะครั้งใหญ่ สร้างพระนั่งและตำหนักต่างๆ มากมาย เพื่อใช้เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะ และสำหรับแปรพระราชฐานดังที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้นั่นเอง
ในปัจจุบันนี้ พระราชวังบางปะอินเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 8.00-17.00 น. ข้อควรปฏิบัติก็คือ ต้องแต่งกายให้สุภาพ และห้ามส่งเสียงดังในขณะเข้าชม
เขตพระราชฐานชั้นนอก
ขตพระราชฐานชั้นนอกนั้น เป็นบริเวณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้สำหรับการออกมหาสมาคมหรือประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย
หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2415 – 2419 มีลักษณะเป็นปรางค์ศิลา ซึ่งจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งทรงปราสาทโดยจำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบกเพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งองค์นี้จนถึงปัจจุบัน
พระที่นั่งวโรภาษพิมาน รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2415 เพื่อใช้เป็นที่เสด็จออกว่าราชการ และใช้เป็นที่ประทับ เป็นตึก 2 ชั้น ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์ ปัจจุบัน พระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน
สภาคารราชประยูร เป็นตึกสองชั้น ตั้งอยู่ริมน้ำ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2419 สำหรับเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ในรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบัน ใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังบางปะอิน
กระโจมแตร เป็นกระโจมขนาดกลางแบบ Gazebo สร้างในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่เยื้องกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์
เรือนแพพระที่นั่ง รัชกาลที่5ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเป็นเรือนแพแบบไทยสร้างด้วยไม้สักทองหลังคามุงด้วยจากภายในจัดแบ่งห้องเป็นสัดเป็นส่วนรัชกาลที่5ใช้เป็นที่ประทับพักแรมในการเสด็จประพาสต้นและทรงสำราญพระอิริยาบถทางน้ำ โดยพระองค์เคยประทับเรือนแพพระที่นั่งไปทรงรับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีจากเมืองเชียงใหม่ด้วย
เขตพระราชฐานชั้นใน
เขตพระราชฐานชั้นใน เชื่อมต่อกับเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้วยสะพานที่มีลักษณะพิเศษ คือมีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดกั้นกลาง ตลอดแนวสะพาน เพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าด้านหนึ่งและฝ่ายในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฝ่ายในสามารถมองลอดออกมาโดยตัวเอง ไม่ถูกแลเห็น สะพานนี้เชื่อมจากพระที่นั่งวโรภาษพิมานกับประตูเทวราชครรไล ซึ่งเป็นประตูทางเข้าพระราชฐานชั้นในซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน และข้าบาทบริจาริกา ประกอบด้วย
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน เดิมเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกัน แต่เกิดไฟไหม้พระที่นั่งทั้งองค์ระหว่างการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2481 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถจึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐาน และรับรองพระราชอาคันตุกะ
หอวิฑูรทัศนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง
เก๋งบุปผาประพาส สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 ทรงใช้เป็นที่พักผ่อนพระราชอิริยาบถภายในพระราชอุทยาน
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวสยามเชื้อสายจีนฮากกาเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5 พระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน
พระตำหนักฝ่ายใน เป็นหมู่พระตำหนัก ตำหนัก และเรือนของพระบรมวงศ์ฝ่ายใน เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกชั้นเดียว และสองชั้น เรียงรายกัน แต่ในปัจจุบัน ได้มีการรื้อตำหนักลงบางส่วน
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน
อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน
หอวิฑูรทัศนาและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อยใน สวนเขตพระราชวังชั้นในระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรกับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญเป็น พระที่นั่ง 3 ชั้น มีบันไดเวียน เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศบ้านเมืองโดยรอบสร้างในรัชกาลที่5เมื่อปี พ.ศ. 2424
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของพระราชวังถัดจากหอวิฑูรทัศนาขึ้นไป พระที่นั่งองค์นี้มีนามเป็นภาษาจีนว่า เทียน เม่ง เต้ย (เทียน=เวหา, เม่ง=จำรูญ, เต้ย=พระที่นั่ง) ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “เก๋งจีน” เพื่อเป็นพระที่นั่งสำหรับประทับในฤดูหนาว โดยกลุ่มพ่อค้าช าวจีนในไทยสร้างถวาย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2432 ลักษณะเป็นพระที่นั่งศิลปะ แบบจีน
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทกลางสระน้ำ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงสระกลางน้ำ สร้างในแบบปราสาทจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น
เอาละครับเป็นยังไงกันบ้างกับเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆแต่ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับถ้าใครสนใจหรืออยากจะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังบางประอินแห่งนี้ก็ลองมาเยี่ยมชมได้นะครับแต่บอกก่อนว่าต้องมาด้วยเครื่องแต่งกายที่สุภาพนะครับไม่งั้นทางเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้าไปข้างในนะครับบอกไว้ก่อนโดยสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. ครับยังไงก็ขอฝากเป็นความรู้ให้ทุกท่านได้เข้ามาอ่านแล้วอยากที่จะลองไปสัมผัสดูนะครับสำหรับวันนี้สวัสดีครับ